เกร็ดความรู้ถมดิน ตอบคำถามเกี่ยวกับการถมดิน

การ ถมดิน ไม่ใช่แค่การสั่งดินมาเทให้เต็มพื้นที่ แต่คือการวางรากฐานที่สำคัญที่สุดของสิ่งปลูกสร้าง ปัญหา “บ้านทรุด โพรงใต้บ้าน หรือดินไหล” ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากเสาเข็มไม่ดี แต่เกิดจากการเลือกชนิดดินผิดและการบดอัดที่ไม่ได้มาตรฐาน บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเกร็ดความรู้การถมดินแบบ Exclusive ที่จะช่วยให้คุณประหยัดงบและได้พื้นที่แข็งแกร่ง

คนส่วนใหญ่ค้นหาแค่ราคา แต่สิ่งที่กำหนดชะตาบ้านคุณคือ คุณสมบัติทางวิศวกรรมของดิน เลือกผิดประเภท = จ่ายค่าซ่อมแพงกว่าค่าถม

เป็นดินที่อยู่ลึกลงไปในชั้นดิน เนื้อละเอียด เหนียวแน่น แห้งไว บดอัดแล้วแน่นมาก รองรับน้ำหนักสิ่งปลูกสร้างได้ดี ไม่เหมาะกับการปลูกต้นไม้ (ต้องซื้อหน้าดินมาโปะหน้าทีหลัง)

แกร่งแต่ร้อน มีหินปน แข็งมาก เหมาะสำหรับทำถนน ลานจอดรถ หรือถมที่โรงงาน ดินมีความร้อนสูง ต้นไม้ตายง่าย และขุดเจาะเสาเข็มยากในภายหลัง

ประหยัดแต่เสี่ยง ราคาถูกที่สุด เป็นดินที่มีส่วนผสมของอินทรียวัตถุหรือเศษวัสดุ การยุบตัวสูงมาก ไม่แนะนำให้ใช้ในจุดที่ต้องรับน้ำหนักโครงสร้างหลัก

หากต้องการ ถมดินสร้างบ้าน ให้เลือก “ดินดาน” หรือ “ดินซีแล็ค” (ดินดานผสมลูกรัง) จะคุ้มค่าที่สุดในระยะยาว ลดโอกาสเกิดโพรงใต้คานคอดิน

เคล็ดลับที่ไม่ซ้ำใครคือ “การยุบตัวของดิน (Settlement)” ธรรมชาติของดินเมื่อขุดขึ้นมาจะฟูตัว (Swelling) และเมื่อนำมาถมจะยุบตัวลงตามกาลเวลา

  • กฎการยุบตัว : โดยเฉลี่ยดินทั่วไปจะยุบตัวลงประมาณ 15-20% หลังการถม
    แปลว่า หากคุณต้องการระดับดินสูง 1 เมตร คุณต้องถมเผื่อไว้ที่ 1.20-1.30 เมตร
  • การบดอัดทีละชั้น (Layering) : อย่าปล่อยให้ผู้รับเหมาเทดินกองสูงรวดเดียวแล้วบดอัดทีเดียว เพราะข้างล่างจะกลวง ให้กำชับว่า “ต้องบดอัดทุกๆ ความสูง 30-50 เซนติเมตร” โดยใช้รถบดอัดหรือแทรกเตอร์วิ่งย่ำ
  • ทิ้งดินให้เซ็ตตัว : หากเป็นไปได้ ควรถมดินทิ้งไว้ข้าม “ฤดูฝน” (ประมาณ 3-6 เดือน) น้ำฝนจะช่วยพาเม็ดดินแทรกตัวลงไปในช่องว่าง ทำให้ดินแน่นโดยธรรมชาติประหยัดค่ารถบดอัด

การถมดินมีกฎหมายควบคุมตาม พ.ร.บ. การขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543

  1. พื้นที่เกิน 2,000 ตารางเมตร : ต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และต้องมีวิศวกรควบคุม
  2. ระบบระบายน้ำ : ต้องจัดให้มีการระบายน้ำที่เพียงพอ ห้าม ถมดินแล้วทำให้น้ำไหลไปท่วมที่ดินข้างเคียงเด็ดขาด (เป็นคดีฟ้องร้องบ่อยที่สุด)
  3. การป้องกันการพังทลาย : หากถมดินสูงกว่าพื้นที่ข้างเคียง ต้องมีระยะร่น หรือทำกำแพงกันดิน (Retaining Wall) เพื่อป้องกันดินสไลด์ไปทับที่ชาวบ้าน

ตารางนี้รวบรวมข้อมูลตัดสินใจแบบรวดเร็ว (Quick Win) สำหรับผู้ที่กำลังวางแผน

นี่คือชุดคำถามที่ผู้คนค้นหามากที่สุดใน Google (Search Intent) เกี่ยวกับ การถมดิน

A : สูตรสำเร็จที่แนะนำคือ สูงกว่าถนนหน้าบ้าน 50-80 เซนติเมตร

  • เหตุผล : เผื่อการยุบตัวในอนาคต เผื่อการปูพื้นกระเบื้อง และเผื่อในอนาคตมีการทำถนนใหม่ (ซึ่งมักจะเททับถนนเดิมทำให้ถนนสูงขึ้นเรื่อยๆ) หากถมต่ำเกินไปในวันนี้ อีก 10 ปีบ้านคุณอาจจะกลายเป็นหลุมรับน้ำ

A :

  • ซื้อเป็นคิว (Cubic Meter) : แม่นยำกว่าสำหรับโครงการใหญ่ที่มีวิศวกรวัดหน้างานจริง (ต้องวัดคิวบนรถบรรทุก ไม่ใช่วัดตอนเทลงพื้นแล้ว เพราะดินจะฟู)
  • เหมาคัน/เหมาเที่ยว : เหมาะสำหรับงานสร้างบ้านทั่วไป ควบคุมงบง่ายกว่า แนะนำให้ตกลงขนาดรถให้ชัดเจน (เช่น รถ 6 ล้อเล็ก หรือ 10 ล้อ) และดูปริมาณดินเต็มกระบะเสมอ

A : หากใช้ “เข็มเจาะ” หรือ “เข็มตอก” ที่ยาวถึงชั้นดินดานแข็ง (ลึก 18-21 เมตร ใน กทม.) สามารถสร้างได้เลย เพราะน้ำหนักบ้านที่ลงเสาเข็ม ไม่ได้ลงที่ดินถมใหม่ แต่… ดินรอบบ้านและพื้นโรงรถที่ไม่มีเสาเข็มจะยุบตัวแน่นอน ดังนั้นควรออกแบบให้โครงสร้างบ้านตัดขาด (Joint) จากพื้นรอบนอก เพื่อไม่ให้ดึงรั้งกันจนแตกร้าว

หากคุณกำลังวางแผนจะถมดิน ลองเริ่มจาก “การคำนวณปริมาณดิน” เบื้องต้นด้วยสูตรนี้ครับ :